Bigfoot ไอตีนโตในทวีปอเมริกา

Bigfoot    บิ๊กฟุตหรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า  “ไอ้ตีนโต”   รูปร่างคล้ายกับมนุษย์หรือบางคนก็บอกว่ามีลักษณะคล้ายกับลิงขนาดใหญ่มีขนดกทั่วร่างกาย    แขนขายาว    มีดวงตาแหลมคมราวกับมนุษย์   ขนาดตัวของมันใหญ่เกินกว่าจะเป็นมนุษย์ได้      มีคนบรรยายไว้ว่ามันมีความสูงถึงแปดถึงเก้าฟุต      น้ำหนักราว ๆ  แปดปอนด์      ทำให้มันมีพละกำลังที่มหาศาล

บิ๊กฟุตถูกพบในบริเวณสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในทวีปอเมริกาเหนือ   แต่ชื่อของมันก็ถูกเรียกต่างออกไปตามแต่ละชนเผ่าของอินเดียนแดง    เช่น    มายาเด็กเท็ก ที่แปลว่า  มนุษย์ขนดก   หรือ   มนุษย์กิ่งไม้   หญิงตะกร้า   หรือ   ยายาริ   และคำว่า   แซสแควตช์

Bigfoot

เดิมทีบิ๊กฟุตเป็นตำนานเรื่องราวที่ปรากฎอยู่บนภาพเขียนสีบนผนังถ้ำของอินเดียนแดง    โดยมีความเชื่อว่าพวกมันอยู่กับเป็นครอบครัว    ผู้นำครอบครัวหรือที่เราคุ้นว่าคือพ่อจะทำหน้าที่ออกล่าหาอาหาร    จับคนหรือติดตามผู้คนที่มีเสบียงเพื่อเอาอาหารกลับมาเลี้ยงคนในครอบครัวนั่นเอง    ซึ่งนี้จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าบิ๊กฟุตถูกมองเป็นสัตว์ดุร้ายหรือนักล่า     ด้วยพฤติกรรมของมันแล้วผู้ที่พบเห็นจึงมองว่ามันเป็นสัตว์ดุร้าย

เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับพบเจอเจ้าบิ๊กฟุตในแต่ละครั้ง   เพราะนอกจากการพบในภาพเขียนสีแล้วยังมีความเชื่อว่ามันเป็นจิตวิญญาณผู้พิทักษ์ป่า    หรือเป็นมนุษย์โบราณที่เลือกจะไม่อยู่ร่วมกับมนุษย์ยุคปัจจุบันเพราะระอากับสิ่งที่มนุษย์ทำให้ธรรมชาติเปลี่ยนไปจากเดิม

ชาวอเมริกันพื้นเมืองเชื่อว่าบิ๊กฟุตเป็นสัตว์ดุร้ายเพราะเมื่อมีคนพบเจอมันแล้วเผลอจ้องตา   สิ่งนั่นถือเป็นการท้าทายเพราะมันจะฆ่าผู้ที่จ้องตามันทิ้ง    อีกความเชื่อหนึ่งผู้คนจะพบมันสะพายตะกร้าหวายไว้ด้านหลังเพื่อจับเด็ก ๆ  ที่ออกมาเล่นไกลจากพ่อแม่ใส่ลงตะกร้า    เพื่อนำไปเป็นอาหารมื้อเย็นของครอบครัวมัน    

Bigfoot 2

Bigfoot ตกลงเป็นลิงยักษ์ หรืออสุรกาย

ชาวบ้านในพื้นที่จึงเตือนกันว่าหากเดินเข้าป่าในตอนกลางคืน    ให้เคาะหินหรือเคาะไม้หรือผิวปาก    เพราะเป็นสิ่งที่มนุษย์ขนดกทำเหมือนกัน    เมื่อทำแล้วมันจะได้ไม่คิดว่า เป็นมนุษย์แต่เป็นพวกเดียวกัน     และเป็นการแสดงให้รู้ถึงตำแหน่งที่อยู่ด้วย   สิ่งนี้เป็นความเชื่อที่ว่าเป็นวิธีการสื่อสารเดียวกันกับลิงใหญ่หรือเอปชนิดอื่น ๆ  ด้วย

นักสำรวจชาวแคนาดาพบร่องรอยของสัตว์ขนาดใหญ่    ซึ่งมีรอยเท้าที่กดลงบริเวณพื้นหิมะลงไปลึกถึงหกนิ้ว   เขาวัดร่องรอยเท้าแล้วจึงรู้ว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้มีสี่นิ้ว  แต่ละนิ้วยาวถึงสี่นิ้ว  มีรอยเล็บเพียงสั้น ๆ   ส่วนความยาวของรอยเท้ายาวถึงสิบสี่นิ้ว  คูณแปดนิ้วตามกว้าง      เขาจึงเชื่อว่ามันจะต้องเป็นสัตว์ประเภทเลี้ยงลูกด้วยนม   หรือบางก็เชื่อว่าเป็นกริซลีย์ตัวใหญ่    ที่มีส่วนปลายของเท้าใหญ่เกินกว่ากริซลีย์หรือหมีทั่วไป

อีกหนึ่งเรื่องราวของบิ๊กฟุตที่โด่งดังและมีชื่อเสียง    เมื่อออสแมนนักกิจกรรมชาวแคนาดาเดินสำรวจป่าเพียงลำพังนานเป็นสัปดาห์    เขารู้สึกโดนติดตามและรังควานติดต่อกันหลายคืน   ทีแรกเขาคิดว่าเป็นเพียงการพบเจอสัตว์ทั่ว ๆ  ไปในป่า    จนกระทั่งคืนหนึ่งที่เขาหลับไป    เขาถกบิ๊กฟุตตัวหนึ่งอุ้มตัวเขาพร้อมกับถุงนอนที่เขานอนอยู่มันขนเขามาพร้อมกับเสบียงที่ออสแมนพกติดตัวมาด้วย

Bigfoot 3

เมื่อออสแมนเริ่มรู้สึกตัวเขาพยายามฟังเสียงรอบข้าง    เขาจึงรู้ว่ามันไม่ได้อยู่กันตามลำพังแต่มันอยู่กันเป็นครอบครัว    เป็นกลุ่มสัตว์ประหลาดร่างใหญ่รูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่กลับมีขนดกเต็มตัว   เนื้อตัวล่อนจ้อน     ออสแมนเล่าว่าสัตว์เหล่านี้ไม่มีทีท่าจะทำร้ายเขาหรือคุกคามเขา    แต่มันเพียงต้องการเสบียงอาหารที่เขาติดมาเท่านั้น

ที่มาของรูป

https://www.cnbc.com/2019/06/05/fbi-tested- bigfoot hair-in-1970s-government-documents-show.html

https://nypost.com/2021/04/20/inside-the-bigfootlegend-at-the-center-of-hulus-sasquatch/

Big foot in Canada: Inside the hunt for proof — or at least a good photo – National | Globalnews.ca

บทความที่คุณอาจสนใจ Beast Of Busco เต่ายักษ์แห่ง อินเดียนา